โทษของบุหรี่ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง ? ผลเสียต่อร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

โทษของบุหรี่ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง และส่งผลกระทบต่อร่างกายแค่ไหน แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่แบบดั้งเดิม แต่ความจริงแล้วมันยังคงมีสารนิโคตินและสารเคมีอันตรายอื่นๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก บุหรี่ไฟฟ้าสามารถส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ไปจนถึงระบบประสาท เพื่อให้เข้าใจถึงอันตรายที่แท้จริง 

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโทษของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่ออวัยวะต่างๆ รวมถึงข้อควรรู้สำหรับผู้ที่กำลังใช้งานหรือกำลังตัดสินใจที่จะลองใช้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าในบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีการเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่ธรรมดา แต่โทษของบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีโทษหลายประการที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการที่บุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินและสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้จะมีการโปรโมตว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันยังสามารถสร้างความเสี่ยงต่อร่างกายในหลายด้าน

• เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด จากสารนิโคตินที่กระตุ้นให้หัวใจทำงานหนัก
• กระทบระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ เจ็บคอ หรือแน่นหน้าอก
• เสี่ยงต่อโรคปอดเรื้อรัง เช่น ปอดอักเสบ หรือปอดติดเชื้อจากการสูดไอน้ำเข้าไป
• ทำลายระบบประสาท โดยเฉพาะในวัยรุ่น ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่
• เสี่ยงเสพติดนิโคติน จนทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการสูบมากขึ้นเรื่อยๆ

การใช้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงมีผลกระทบหลายด้านที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนการตัดสินใจใช้งาน

หนึ่งในคำถามที่หลายคนมักจะสงสัยคือ พอตมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร ? แม้พอตจะดูสะดวกและปลอดภัยกว่าบุหรี่ไฟฟ้าแบบทั่วไป แต่ พอตมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไร ก็เป็นคำถามที่พบได้บ่อย ซึ่งคำตอบคือ หัวพอต (ส่งไปหน้าหมวดหมู่) ส่วนใหญ่ใช้ Salt Nic ที่มีความเข้มข้นของนิโคตินสูง ทำให้เสี่ยงเสพติดง่าย และอาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้

• ใจสั่นและหัวใจเต้นเร็ว
  การได้รับนิโคตินในปริมาณสูงอาจกระตุ้นระบบประสาทให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ทำให้รู้สึกใจสั่น หรืออาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว (tachycardia) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจในระยะยาว
• เวียนหัวและมึนงง
  การสูบพอตสามารถทำให้เกิดอาการเวียนหัวและมึนงง โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับนิโคตินหรือเพิ่งเริ่มใช้งาน การได้รับนิโคตินเกินขนาดอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการเหล่านี้ได้ง่าย
• เจ็บคอหรือไอเรื้อรัง
  การสูบพอตอาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอหรือไอเรื้อรัง เนื่องจากไอน้ำจากพอตและสารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาสามารถระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและคอได้ โดยอาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายตัว
• หายใจติดขัดหรืออ่อนเพลีย
  การสูบพอตอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจได้เช่นเดียวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เมื่อสารนิโคตินและสารเคมีต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำยาถูกสูดเข้าไปในปอด อาจทำให้เกิดอาการหายใจติดขัดหรือรู้สึกอ่อนเพลีย โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ
• เสี่ยงต่อการเสพติดนิโคติน
  เนื่องจากพอตมีความเข้มข้นของนิโคตินสูง การใช้งานพอตบ่อยครั้งอาจทำให้ผู้ใช้เกิดการเสพติดนิโคตินได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเสพติดนี้อาจทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการสูบและเสี่ยงต่อผลกระทบจากการสูบในระยะยาว

โดยเฉพาะในผู้ที่เพิ่งเริ่มสูบพอต อาจเกิดอาการข้างเคียงจากการได้รับนิโคตินเกินขนาดได้ง่ายกว่าผู้ที่เคยสูบประจำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแย่ลงได้ในบางกรณี

บุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่ออวัยวะส่วนใดมากที่สุด จากงานวิจัยและการศึกษาหลายๆ แห่ง พบว่ามันสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ในหลายด้าน โดยเฉพาะกับ 3 ระบบหลักของร่างกายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งได้แก่

• ระบบทางเดินหายใจ (ปอดและหลอดลม)
  บุหรี่ไฟฟ้าทำให้สารเคมีและไอน้ำเข้าสู่ปอด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหายใจไม่สะดวก ไอเรื้อรัง หรือเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบและปอดติดเชื้อในระยะยาว
• ระบบหัวใจและหลอดเลือด (การทำงานของหัวใจและความดันโลหิต)
  สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าจะกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนัก เพิ่มความดันโลหิต และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
• ระบบประสาทและสมอง (โดยเฉพาะในวัยรุ่นและผู้ที่สูบต่อเนื่อง)
  นิโคตินส่งผลต่อสมอง ทำให้เกิดปัญหาการเรียนรู้และการจดจำ โดยเฉพาะในวัยรุ่นที่สมองยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ อาจเสี่ยงต่อการเสพติดนิโคตินได้ง่าย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งสามระบบนี้ หากไม่ได้รับการดูแลหรือหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดโรคร้ายแรงในระยะยาว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ และปัญหาทางสมองหรือระบบประสาท ดังนั้นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจึงยังคงมีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

บุหรี่ไฟฟ้าถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าในการเลิกบุหรี่ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและกฎหมายที่ควรทราบก่อนการตัดสินใจใช้งาน ในบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ

• ไม่สามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้ 100% – บุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารนิโคตินที่ทำให้เสพติดเหมือนบุหรี่ธรรมดา
• เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในระยะยาว – การใช้งานอาจทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ หรือหลอดเลือด
• ผิดกฎหมายในประเทศไทย – การใช้หรือครอบครองบุหรี่ไฟฟ้ายังคงผิดกฎหมายในประเทศ
• น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดอาจทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ – สารเคมีในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจได้

การตัดสินใจใช้บุหรี่ไฟฟ้าควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งในแง่ของสุขภาพและกฎหมาย

บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคร้ายแรงที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แม้จะถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังมีผลกระทบต่อร่างกาย ในหัวข้อนี้จะเปรียบเทียบโทษของบุหรี่ 5 ข้อ หลักที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพในระยะยาว 

1. ทำลายปอดและหลอดลม
   • บุหรี่ทำลายปอดและหลอดลม ทำให้เสี่ยงต่อโรคปอดเรื้อรัง ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังทำให้เกิดการระคายเคืองและติดเชื้อ
2. เพิ่มโอกาสเป็นโรคหัวใจ
   • บุหรี่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้ายังมีผลต่อการทำงานของหัวใจ
3. ส่งผลเสียต่อสมองและระบบประสาท
   • สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้สมองเสื่อมเร็ว ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังส่งผลต่อสมองโดยเฉพาะในวัยรุ่น
4. ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
   • บุหรี่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน
5. เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ
   • บุหรี่เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งในปอด ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีสารเคมีที่อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ในระยะยาว

แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะดูเหมือนลดโทษบางข้อได้ แต่สุดท้ายก็ยังคงมีผลเสียที่ใกล้เคียงกันในระยะยาว ทั้งในแง่ของการเสพติดสารนิโคตินและผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย

วิธีสังเกตคนสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีลักษณะเฉพาะที่สามารถบ่งบอกได้ ในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักวิธีสังเกต เพื่อให้คุณสามารถระบุได้อย่างง่ายดาย

• มีกลิ่นผลไม้หรือกลิ่นหวานติดตัวจากน้ำยา : น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามักมีรสชาติและกลิ่นที่หลากหลาย เช่น กลิ่นผลไม้ หรือกลิ่นหวาน ซึ่งมักจะติดตัวคนสูบ
• พกอุปกรณ์เล็กๆ รูปร่างคล้าย USB หรือแท่งสี่เหลี่ยม : คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามักจะพกอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก รูปร่างคล้าย USB หรือแท่งสี่เหลี่ยมที่สะดวกในการพกพา
• สูบบ่อยในเวลาสั้นๆ และถี่ขึ้นเมื่อเครียด : คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามักจะสูบในเวลาสั้นๆ และเพิ่มความถี่ในการสูบเมื่อรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล
• มักมีอาการปากแห้ง คอแห้ง หรือไอเรื้อรัง : การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดอาการปากแห้ง คอแห้ง หรือมีอาการไอเรื้อรังจากการสูบไอน้ำเป็นระยะเวลานาน

การสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถรู้ได้ว่าใครกำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไหม คำตอบคือ อันตรายแน่นอน แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่มีการเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่ทั่วไป แต่ยังคงมีสารนิโคตินและสารเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว การสูดดมไอน้ำจากบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำลายระบบทางเดินหายใจ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด และปัญหาสุขภาพอื่นๆ นอกจากนี้การได้รับนิโคตินในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดการเสพติดและมีผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะในผู้ที่ยังอยู่ในวัยพัฒนา แม้จะมีความรู้สึกว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้ายังคงมีผลเสียที่ไม่ควรมองข้าม

จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า โทษของบุหรี่ไฟฟ้า ต่อร่างกายในหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็นปอด หัวใจ หรือสมอง แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะดูสะดวกและทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม โดยการสูดดมสารนิโคตินและสารเคมีในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำลายระบบทางเดินหายใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และส่งผลกระทบต่อระบบประสาท การใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดอาการเสพติดนิโคตินและปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ หากคิดจะใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกาย เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติ